หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานหรือ “หุ่นยนต์โคบอท (Cobot)” ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งโคบอทได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับมนุษย์ ในส่วนของงานที่ต้องซ้ำซากหรืองานที่มีความอันตราย เพื่อให้พนักงานสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีความจำเป็นมากขึ้นได้ โคบอทสามารถช่วยงานได้หลากหลาย คุ้มค่าการลงทุนอย่างมากในอุตสาหกรรมการเกษตร ตามมาอ่านรายละเอียดประโยชน์การทำงานโคบอทในอุตสาหกรรมการเกษตรกันต่อได้เลย

5 ประโยชน์หลักของการใช้โคบอทในอุตสาหกรรมการเกษตร

หุ่นยนต์โคบอท (Cobot) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในอุตสาหกรรมการเกษตร เนื่องจากความสามารถในการทำงานร่วมกับมนุษย์ การจัดการงานที่ต้องทำซ้ำๆ หรือจะเป็นการทำงานในส่วนที่มีความอันตราย ซึ่งไม่เพียงเท่านี้แล้ว การเลือกใช้หุ่นยนต์ โรบอท ในอุตสาหกรรมการเกษตร ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานได้อย่างดี ประหยัดต้นทุนแรงงานมากขึ้น เรียกได้ว่ามีความแม่นยำในการทำงานละเอียด เพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงานในส่วนของงานที่มีความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่ามีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของการเกษตรอย่างแน่นอน

  • ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น: หุ่นยนต์โคบอทสามารถทำงานตลอดเวลา มักจะนำไปใช้ในส่วนงานที่ต้องทำซ้ำๆ เพราะโคบอทสามารถทำงานส่วนนี้ได้อย่างรวดเร็ว มีความแม่นยำ นำไปสู่ประสิทธิภาพและการประสิทธิผลที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้แล้วก็ยังสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ ได้เป็นอย่างดี เช่น ส่วนการคัดแยก, ส่วนงานเก็บเกี่ยว และปลูกพืช เป็นต้น ซึ่งนี่ก็จะเป็นการเพิ่มผลผลิตของฟาร์มและการเกษตรได้เป็นอย่างดี
  • ลดต้นทุนแรงงาน: หุ่นยนต์โคบอทสามารถจัดการงานซ้ำ ๆ ได้ดี ทำให้คนงานในฟาร์มสามารถมุ่งเน้นการทำงานในส่วนอื่นที่ต้องใช้ทักษะ และการตัดสินใจในระดับที่สูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าก็ช่วยผ่อนแรงการทำงานของพนักงานได้ดี สิ่งนี้สามารถช่วยลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มผลกำไรโดยรวมของฟาร์ม
  • ปรับปรุงได้อย่างแม่นยำ: โคบอทติดตั้งเซ็นเซอร์และระบบการมองเห็น ที่ช่วยให้สามารถระบุและจัดการกับพืชผลได้อย่างแม่นยำ โดยสร้างความเสียหายน้อยที่สุด สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงขึ้น และลดการสูญเสียได้เป็นอย่างดี เนื่องจากความเสียหายระหว่างการเก็บเกี่ยวหรือการคัดแยก
  • ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: เกษตรกรรมอาจเป็นอุตสาหกรรมที่อันตราย โดยคนงานต้องเผชิญอันตรายต่างๆ เช่น เครื่องจักรหนัก ยาฆ่าแมลง และสภาพอากาศที่รุนแรง หุ่นยนโคบอทสามารถทำงานบางอย่างที่อันตรายที่สุดได้ ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้ รวมไปถึงความเสี่ยงในการเสียชีวิต
  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ลดลง: โคบอทสามารถช่วยลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายในการทำฟาร์ม โดยการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและสารกำจัดวัชพืชเมื่อจำเป็นเท่านั้น สิ่งนี้สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเกษตร รับประกันความปลอดภัยของทั้งคนงานและผู้บริโภคได้ดี
  • การรวบรวมข้อมูลที่ได้รับการปรับปรุง: หุ่นยนต์โคบอทสามารถติดตั้งเซ็นเซอร์และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลการเจริญเติบโตของพืช สภาพดิน และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อผลผลิตและคุณภาพของพืชผล ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้เกษตรกรตัดสินใจอย่างรอบรู้มากขึ้นเกี่ยวกับการเพาะปลูก การให้ปุ๋ย และแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรอื่นๆ

โดยรวมแล้ว การใช้โคบอทในอุตสาหกรรมการเกษตรสามารถนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนแรงงาน ปรับปรุงความแม่นยำ เพิ่มความปลอดภัย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงการรวบรวมข้อมูล ด้วยประโยชน์เหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าโคบอทมีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการทำฟาร์มและผลิตอาหารกันอย่างดี